top of page

MUSIC

gabriel-faure_ZZ4XmZu.png
Gabriel Fauré
Born May 12, 1845.
Died November 4, 1924.
Élégie for Cello and Piano, op. 24
Composed: 1880
Published: 1883
Dedication: Jules Loëb
First performance: December 15, 1883
Other works from this period: Piano Quartet no. 1 in c minor, op. 15 (1876–1879); Berceuse in D Major for Violin and Piano, op. 16 (1879); Impromptu no. 1 in E-flat Major for Solo Piano, op. 25 (1881)
Approximate duration: 7 minutes

บทเพลงนี้ประพันธ์โดยคีตกวีชาวฝรั่งเศษ Gabriel Faure ในปี ค.ศ. 1880 ออกแสดงต่อสาธารณะในปี ค.ศ. 1883 อยู่ในบันไดเสียง C ไมเนอร์ ที่เปิดด้วยความเศร้าและหม่นหมอง ไปจนถึงจุด climax ด้วยความรุนแรง ในท่อนกลางนั้นมีความวุ่นวายปั่นป่วน ก่อนที่จะกลับมาจบด้วยรูปแบบของการไว้อาลัย           

          ในอารมณ์เพลงจะให้ความรู้สึกอ่อนโยน แต่คงไว้ซึ่งความเศร้า และในบทเพลงของ Faure นั้น สามารถทำให้ผู้ฟังเกิดความประทับใจ  ซึ่งนับเป็นบทเพลงชิ้นเอกของเขาเลย

           Faure ได้ประพันธ์ลงานอันเป็นที่รักนี้ในปี 1880 ในรูปแบบสำการนำเสนอ cello sonata  ซึ่งไม่คิดผลงานดังกล่าวนั้นจะโผล่มาจากปลายปากกาของเขาในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งในภายหลังนั้น นักแต่งเพลงท่านอื่นเห็นได้ชัดว่าค่อนข้างพอใจและยอมรับ cello/piano ของเขาเป็นครั้งแรก และมีประสิทธิภาพมาก และได้ทำการแสดงที่บ้านของ Camlle Saint-Saens ในปี 1880 และนั่นก็นับเป็นครั้งแรกที่แสดงในที่สาธารณะที่  National หรือกรุงปารีสในวันที่ 15 ธันวาคม 1883 แม้ว่ามันจะไม้ได้สมบูรณ์นัก แต่บทเพลงโซนาตาของเขาก็เป็นอะไรที่สนุกสนานมากในงานเต้นรำหน้ากาก  

       
ดาวน์โหลด (3).jpg
Johann Sebastian Bach
Born March 21, 1685, Eisenach, Germany
Died July 28, 1750, Leipzig
Cello Suite No. 2 in D minor BWV 1008 (Sarabande)
Saraband เป็นศูนย์กลางของอารมณ์ทั้งหมด ที่นำเรากลับมาที่ความรู้สึก มืดหม่น ลุ่มลึก อึมครึม และความรู้สึกเป็นโดดเดี่ยวในส่วนของ prelude ซึ่ง movement ดังกล่าวนั้น เป็นเนื้อหาทางด้านอารมณ์ เป็นท่วงทำนองที่เราสัมผัสได้ในทุกที่ suite ตามแบบฉบับของ saraband

       

220px-JohannesBrahms.jpg
Johannes Brahms
Born May 7, 1833, Hamburg,Germany
Died April 3, 1897, Vienna, Austria.
Sonata E minor No.1 op.38

โยฮันเนส บราห์ม อาศัยในแหล่งสลัมที่เสื่อมโทรมที่สุดในเมืองฮัมบวร์ก ประเทศเยอรมนี ที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมและโรคภัยต่างๆ  เมื่อสมัยตอนเป็นวัยรุ่นนั้นเขากับพ่อของเขา คือ โยฮัน ยาค็อบ บราห์ม ได้ช่วยกันเล่นดนตรีหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวตามงานมหรศพต่างๆ โดยที่เขานั้นเล่นเปียโน และพ่อของเขานั้นที่มีความสามารถในการเล่นเบส    ซึ่งพ่อของบราห์มนั้นได้รับรู้ถึงความสามารถพิเศษทางดนตรีของบุตรชายของเขา จึงได้สนับสนุนให้บราห์มไปศึกษาต่อทางด้านดนตรี

    และนอกเหนือจากผลงานด้านดนตรีของเขาแล้ว และสิ่งหนึ่งที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดเกี่ยวกับโยฮันเนสบราห์มก็คือมิตรภาพระหว่างบราห์มกับ คลาร่า ชูมันน์ (Clara Schumann) ภรรยาของโรเบิร์ต ชูมันน์ (Robert Schumann) สังคีตกวีผู้มีชื่อเสียง  ความช่วยเหลือที่ชูมันน์มีให้ต่อบราห์ม ทำให้บราห์มมีความสนิทสนมกับครอบครัวของชูมันน์มาก
        โยฮันเนสบราห์มเป็นหนึ่งในสามผู้แต่งเพลงที่ประสบความสำเร็จ คนแรกก็คือ บาค (Bach) คนที่สองก็คือ เบโธเฟน (Beethoven) และคนที่สามก็คือ บราห์ม (Brahm) จนมีผู้นำถ้อยคำว่า "The Three B's" ไปใช้กล่าวถึงสังคีตกวีทั้งสาม  ทั่วโลก และเป็นที่ยอมรับโดยไม่มีผู้ใดคัดค้าน

       ถึงแม้ว่าบราห์มจะเป็นสังคีตกวีในยุคโรแมนติก แต่เขาก็ยังเคร่งครัดต่อแบบแผนการประพันธ์เพลงเหมือนกับยุคคลาสสิก  เน้นความถูกต้องของแบบแผน  อารมณ์ของบทเพลงเหมือนกับยุคโรแมนติก  งานที่ทำให้เขามีชื่อเสียงคือ German Requiem 

       

J. G. portre 2.jpg
Pal Jardanyi
Born January 30, 1920.
Died July 29, 1966.
Sonatina No.1
จาร์ดันยิ 19201966 เป็นตัวเลขทางด้านดนตรีที่โด่งดังที่สุดในฮังการีช่วงสงครางโลกครั้งที่สอง เขาเป็นนักวิจัยนวัตกรรมทางด้านบทเพลงพื้นเมืองที่ประสพความสำเร็จที่สุดในตอนนั้น และยังเป็นครู ตลอดชีวิตในการสร้างสรรค์ผลงานของเขานั้น เขาได้ทำตามความเชื่อของตัวเองทางด้านศิลปะ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานคิดทางดนตรีของ Bartok และ Kodaly และผลงานที่เป็นที่รู้จักของเขามากที่สุดคือ Vorosmarty Symphony , The oratorio Elõszó และ Choral works
ต่างอย่างเช่นของ  Hajnali tánc, Árva madár และของ Gergõ nótái นอกจากนี้ยังมีผลงาน แชมเบอร์ และงานร้องต่างๆที่ได้รีบความชื่นชอบและเป็นบทเพลงประวัติศาสตร์อีกด้วย

       

bottom of page